สล็อตแตกง่ายPETA ร่อนจดหมายวอน อนุทิน แบนถ่ายรูปคู่สัตว์ หวั่นโควิดระบาด

สล็อตแตกง่ายPETA ร่อนจดหมายวอน อนุทิน แบนถ่ายรูปคู่สัตว์ หวั่นโควิดระบาด

PETA ส่งจดหมายถึงนาย อนุทิน ให้แบนการถ่ายสล็อตแตกง่ายรูปคู่สัตว์หายากในสวนสัตว์ หวั่นโควิดกลายพันธุ์และระบาดหนัก องค์กรพิทักษ์สัตว์ PETA ได้ส่งจดหมายไปยังนายอนุทิน ชาญวีรกูล รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขและรองนายกรัฐมนตรี เรียกร้องให้สั่งระงับการถ่ายรูปคู่กับสัตว์หายาก ภายในสวนสัตว์ เพื่อเป็นการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19

โดยทางองค์กรได้ระบุว่ามีการพบสัตว์ติดเชื้อโควิดจากมนุษย์ในหลายพื้นที่ 

พร้อมหยิบยกตัวอย่างว่ามีสัตว์จากในสวนสัตว์ประเทศสหรัฐอเมริกา และ สเปนที่พบสัตว์ป่วยเป็นโรคโควิด-19 พร้อมแสดงความกังวลว่าหากสัตว์ติดเชื้ออาจจะทำให้เกิดโควิดกลายพันธุ์ชนิดใหม่ที่เป็นอันตรายกว่าในปัจจุบันได้

ซึ่ง PETA ระบุอีกว่าพวกเขาได้ติดต่อสวนสัตว๋หลายแห่งในประเทศไทย เพื่อสอบถามว่าสวนสัตว์อนุญาตให้นักท่องเที่ยวเข้าใกล้กับสัตว์หรือไม่ และทาง PETA ชี้ว่าทางสวนสัตว์อนุญาตให้นักท่องเที่ยวเข้าใกล้กับสัตว์จริง และเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดระลอกใหม่ ในขณะนี้ยังไม่มีหลักฐานแน่ชัดว่าโรคโควิดสามารถแพร่ระบาดจาก สัตว์ สู่ มนุษย์ ได้หรือไม่ อย่างไรก็ตามมีหลักฐานยืนยันแน่ชัดแล้วว่า สัตว์ สามารถติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 จากมนุษย์ได้

นายอนุทิน กล่าวว่า ตนสั่งการให้เพิ่มประสิทธิภาพระบบกู้ภัยของสถาบันการแพทย์ฉุกเฉิน(สพฉ) ให้เป็นไปด้วยความรวดเร็ว และในฐานะประธานสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ(สปสช.) จึงได้เห็นชอบอนุมัติร่วมกับคณะกรรมการฯ จัดสรรงบประมาณเพื่อให้คลอบคลุมค่าใช้จ่ายให้แก่ผู้ป่วยโรคโควิด-19 ทุกรูปแบบของการรักษาไม่ว่าจะรักษาที่บ้านหรือสถานพยาบาลทั้งของรัฐและของเอกชน การเร่งรัดให้ อย. ขึ้นทะเบียนยาและเวชภัณฑ์ทุกชนิดที่เกี่ยวข้องกับโควิด-19 ให้รวดเร็วอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน การสนับสนุนให้คงงบประมาณสำหรับการตรวจแบบ RT-PCR เพื่อการยืนยันเชื้อที่แม่นยำ ตลอดจนการเร่งรัดให้มีการอนุญาตให้ระบบการสาธารณสุขของไทย ยอมรับการตรวจหาเชื้อที่ใช้อุปกรณ์แบบแอนติเจน เทสต์ คิท(ATK) และอนุมัติงบประมาณเพื่อให้รัฐทำการจัดหาให้ประชาชน เพื่อความสะดวกในการตรวจเชื้อด้วยตนเอง เพื่อเข้าสู่ระบบการรักษาต่อไป

ภาคีนักกฎหมาย ส่งหนังสือ วอน สถาบันตุลาการคุ้มครองประชาชน

ภาคีนักกฎหมาย ส่งหนังสือ วอน สถาบันตุลาการคุ้มครองประชาชน หลังการคัดค้านการประกันตัว 4 แกนนำคณะราษฎร เพจเฟซบุ๊ก ภาคีนักกฎหมายสิทธิมนุษยชน ได้ออกมาโพสต์ส่งหนังสือถึงผู้พิพากษาศาลอาญา และประธานศาลฎีกา ขอให้สภาบันตุลาการทำหน้าที่คุ้มครองสิทธิเสรีภาพของประชาชน  หลังจากที่ศาลไม่ให้ประกันตัว 4 แกนนำคณะราษฎร 4 คน ตามมาตรา ม.112 และ ม.116

โดยข้อความระบุว่า จากกรณีศาลอาญามีคำสั่งไม่ให้ประกันตัวผู้ถูกกล่าวหาว่ากระทำความผิด

ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และมาตรา 116 4 ราย ได้แก่ นาย พริษฐ์ ชิวารักษ์ นาย อานนท์ นำภา นาย ปติวัฒน์ สาหร่ายแย้ม และ นาย สมยศ พฤกษาเกษมสุข เมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา เนื่องจากการปราศรัย 19 กันยาทวงอำนาจคืนราษฎร ที่สนามหลวงเมื่อวันที่ 19 และวันที่ 20 กันยายน 2563 และการชุมนุม 14 พฤศจิกายน (Mobfest) ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน 2563 นั้น ศาลอาญามีคำสั่งไม่อนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวผู้ถูกกล่าวหาข้างต้น ให้เหตุผลว่า

“พิเคราะห์ความหนักเบาแห่งข้อหาและพฤติการณ์แห่งคดีแล้วเห็นว่าคดีมีอัตราโทษสูง พฤติการณ์แห่งคดีเป็นเรื่องร้ายแรง อีกทั้งการกระทำของจำเลยเป็นการกระทำซ้ำ ๆ ต่างกรรมต่างวาระ ตามข้อกล่าวหาเดิมหลายครั้งหลายครา กรณีมีเหตุอันควร เชื่อว่าหากอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวจำเลยอาจไปก่อเหตุลักษณะเดียวกันกับความผิดที่ถูกกล่าวหาอีกจึงไม่อนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราว…”

การไม่ได้ประกันตัวดังกล่าวมีผลให้ผู้ถูกกล่าวหาทั้ง 4 คน ถูกส่งตัวไปคุมขังที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพ โดยไม่มีกำหนดระยะเวลา หากศาลไม่อนุญาตให้ประกันตัวในระหว่างพิจารณา ทั้ง 4 คน จะถูกคุมขังจนกว่าจะมีคำพิพากษา นั้นหมายความว่าการไม่อนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวนี้จะเป็นผลให้ผู้ถูกกล่าวหาทั้ง 4 คน จะถูกพรากเสรีภาพในการแสดงออกและเสรีภาพในการชุมนุม และไม่สามารถเป็นแกนนำในการชุมนุมในระหว่างที่มีการพิจารณาคดีนี้ การตั้งข้อหาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และมาตรา 116 ในกรณีนี้จึงมีจุดประสงค์ซ่อนเร้นเพื่อยุติการมีส่วนร่วมทางการเมืองของผู้ถูกกล่าวหาเป็น “การฟ้องคดีปิดปาก” เพื่อปิดกันการมีส่วนร่วมสาธารณะ (SLAPP: Strategic Lawsuit Against Public Participation) ซึ่งถือว่าเป็นการคุกคามประชาชนด้วยกระบวนการยุติธรรม การไม่อนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวในระหว่างการพิจารณาคดีจะมีผลเป็นการทำให้ผู้ถูกกล่าวหาทั้ง 4 ต้องยุติบทบาทในการนำการชุมนุมสาธารณะเสียก่อนที่พวกเขาจะได้รับการพิพากษาว่าได้กระทำความผิด

ภาคีนักกฎหมายสิทธิมนุษยชนขอเรียนมาเพื่อคัดค้านการใช้ดุลพินิจของศาลอาญาในการสั่งมิให้ปล่อยตัวชั่วคราวผู้ต้องหาในคดีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ด้วยเหตุที่จะกล่าวต่อไปนี้

ปัจจุบันมีการนำกฎหมายหมิ่นพระมหากษัตริย์มาใช้เป็นเครื่องมือจำกัดและคุกคามสิทธิ

และเสรีภาพของประชาชนที่เห็นต่างเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะภายหลังจากที่นายกรัฐมนตรีได้แถลงการณ์

เมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน 2563 ที่ระบุว่าจะบังคับใช้กฎหมายทุกฉบับ ทุกมาตราที่มีอยู่ ดำเนินการต่อผู้ชุมนุม ทำให้คดี 112 ถูกนำมาใช้เป็นเครื่องมือกลั่นแกล้งเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งการแถลงของผู้นำประเทศที่เห็นประชาชนเป็นศัตรูและการใช้สิทธิเสรีภาพในการแสดงออกทางการเมืองเป็นอาชญากรรม และศาลที่รับฟ้องคดีความผิดตามประมวลกฎหมาย อาญามาตรา 112 และมีคำสั่งไม่อนุญาตให้จำเลยหรือผู้ต้องหาได้รับสิทธิในการปล่อยตัวชั่วคราว มักจะอ้างเหตุผลในทำนองว่าข้อหาและพฤติการณ์แห่งคดีแล้วเห็นว่าคดีมีอัตราโทษสูง พฤติการณ์แห่งคดีเป็นเรื่องร้ายแรง โดยที่ท่านทราบดีว่าสิทธิในการปล่อยตัวชั่วคราว ต้องพิจารณา ภายใต้บทบัญญัติมาตรา 29 แห่งรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย โดยมีหลักการให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าผู้ต้องหาหรือจำเลยไม่มีความผิด สล็อตแตกง่าย